ชื่ออุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา

วัดจักรวรรดิ์


 

          วัดจักรวรรดิ์  หรือวัดเจ้ามอญ  ตั้งอยู่ที่ตำบลหันตรา  อำเภอพระนครศรีอยุธยา  จังหวัดพระนครศรีอยุธยา  บริเวณเมืองอโยธยานอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา

          วัดจักรวรรดิ์ หรือวัดเจ้ามอญ  เป็นวัดร้างที่ยังไม่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ ไม่มีประวัติความเป็นมาที่แน่ชัด  พบเพียงว่ามีชื่อวัดเจ้ามอญในทำเนียบพระราชาคณะสมัยอยุธยาตอนต้น

          วัดจักรวรรดิ์หรือวัดเจ้ามอญ  ต้องร้างลงเมื่อสิ้นกรุงศรีอยุธยาใน พ.ศ. ๒๓๑๐  และปรักหักพังไปตามกาลเวลาโดยธรรมชาติและฝีมือมนุษย์จนกระทั่งกรมศิลปากรได้เข้ามาดำเนินการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดีใน พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๔๔  การดำเนินงานครั้งน้ได้พบโบราณวัตถุทั้งสมัยอยุธยาตอนต้นและอยุธยาตอนปลาย  และเมื่อขุดแต่งซากโบราณสถานทั้งสิ้นเสร็จแล้วพบว่าวัดจักรวรรดิ์เป็นวัดขนาดกลางหันหน้าไปทางทิศตะวันออก  มีคูน้ำล้อมรอบ ๓ ด้าน  คือด้านทิศเหนือ  ทิศใต้  และทิศตะวันตก  ประกอบด้วยเจดีย์ประธาน ๑ องค์ อุโบสถ ๑ หลัง  เจดีย์ราย ๒๓ องค์  และกำแพง ๓ ชั้น

          ในการขุดค้นขุดแต่งทางโบราณคดีพบว่าวัดจักรวรรดิ์สร้างขึ้นในสมัยอยุธยาตอนต้น  บูรณะครั้งใหญ่และก่อสร้างเพิ่มเติมในสมัยอยุธยาตอนปลาย  เมื่อแรกสร้างวัดนี้มีขอบเขตพื้นที่เล็กกว่าปัจจุบัน  มีเพียงเจดีย์ประธาน ๑ องค์  เจดีย์บริวารที่มุมและด้านรอบเจดีย์ประธาน ๑๑ องค์  และวิหาร ๑ หลัง  ต่อมาเมื่อมีการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย  มีการก่อสร้างวิหารขนาดเล็ก ๑ หลัง  และสร้างอุโบสถขนาดใหญ่ทับลงบนฐานวิหารเดิม  และสร้างเจดีย์ประธานขึ้นใหม่ขนาดใหญ่กว่าองค์เดิมทับลงบนฐานเจดีย์ประธานเก่า  พร้อมทั้งสร้างเจดีย์บริวารบนฐานเจดีย์ประธานขึ้นใหม่อีก ๒ องค์

          นอกจากการบูรณะดังกล่าวแล้ว  ยังพบหลักฐานว่ามีการขยายพื้นทีวัดออกไปทางทิศเหนือและทิศใต้ของวัดโดยสร้างกำแพงวัดขึ้นใหม่กั้นขอบเขตพื้นที่ที่ขยายออกไป  การบูรณะครั้งนี้สันนิษฐานว่าน่าจะได้บูรณะในคราวเดียวกับการบูรณะวัดใกล้เคียง  เช่นวัดกุฎีดาว  ซึ่งพงศาวดารระบุว่า  บูรณะในสมัยพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ  และหลังจากการบูรณะครั้งใหญ่แล้วมีการสร้างอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเจดีย์ประธาน ๑ หลัง  และสร้างเจดีย์รายเพิ่มขึ้นอีกหลายองค์

          หลังจากการขุดค้น  ขุดแต่ง  ทางโบราณคดีในปี พ.ศ. ๒๕๔๒ - ๒๕๔๓ แล้ว กรมศิลปากรได้ปรับปรุงสภาพแวดล้อมและบูรณะโบราณสถานภายในวัดจักรวรรดิ์ทั้งหมดตามรูปแบบที่ปรากฏให้เห็นภายหลังการขุดแต่ง  โดยการเสริมความมั่นคงและต่อเติมบางส่วนตามรูปแบบที่นักวิชาการได้ศึกษาวิเคราะแล้ว  ปัจจุบันโบราณสถานวัดจักรวรรดิ์ประกอบด้วย  สิ่งก่อสร้างที่บูรณะแล้วดังนี้

          เจดีย์ประธาน  เป็นเจดีย์ขนาดใหญ่สูงประมาณ ๒๖ เมตร  ตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ๒๒ x ๒๒ เมตร  ถัดขึ้นไปเป็นฐานเขียง  ฐานปัทม์ มาลัยเถา  องค์เจดีย์ทรงระฆังกลมป้อม  มีร่องรอยของลวดลายบัวที่คอระฆัง  เหนือระฆังเป็นบัลลังก์แปดเหลี่ยม  ก้านฉัตรและปล้องไฉนขนาดใหญ่คล้ายกับเจดีย์ประธานวัดกุฎีดาว  ซึ่งสันนิษฐานว่าได้รับการบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยเดียวกัน

          อุโบสถ  เหลือเฉพาะส่วนฐานขนาดใหญ่รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด ๑๖ x ๓๐ เมตร  มีประตูเข้าออกทางด้านทิศตะวันออกและตะวันตก  ด้านละ ๒ ทาง

          วิหาร  เหลือเฉพาะส่วนฐานรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาด ๑๐ x ๑๘ เมตร  ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอุโบสถ

          ศาลา  หรือเจดีย์ขนาดเล็กเหลือเพียงส่วนฐานอาคารรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด ๑๐ x ๑๐ เมตร ตรงแนวกำแพงชั้นในและชั้นกลางทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของวัด  อาจเป็นฐานรากของศาลาลงสู่ท่าน้ำหรือเจดีย์ขนาดเล็ก

          เจดีย์ราย  รอบเจดีย์ประธานมีเจดีย์รายรอบอยู่ ๑๖ องค์  ซึ่งก่อนการบูรณะอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมทั้งหมด  ส่วนใหญ่เหลือเพียงฐานราก  ที่เหลือสภาพมองเห็นรูปแบบได้ชัดเจนมี ๔ องค์คือ

เจดีย์ทรงกลมฐานแปดเหลี่ยมที่มุมตะวันออกเฉียงเหนือ  ส่วนบนตั้งแต่ก้านฉัตรถึงปลียอดหักไป   ที่ฐานเจาะเป็นช่องคูหาโค้งยอดแหลม  ถัดจากชั้นฐานเป็นชุดมาลัยเถา  บัวปากระฆัง  องค์เจดีย์ทรงระฆังกลมเพรียวสูงประมาณ ๑๑.๕๐ เมตร  จากการขุดตรวจทางโบราณคดีพบหลักฐานว่า เจดีย์องค์นี้สร้างขึ้นก่อนเจดีย์ประธานองค์ปัจจุบัน

เจดีย์ทรงกลมฐานแปดเหลี่ยม  ๒ องค์  ทางด้านทิศใต้  องค์หนึ่งสูงประมาณ ๙ เมตร  ถัดจากฐานเขียงเป็นฐานประดับลายแข้งสิงห์  บัวปากระฆัง  และองค์เจดีย์บัลลังก์แปดเหลี่ยม  รูปแบบของเจดีย์เป็นแบบศิลปะที่นิยมสร้างในสมัยอยุธยาตอนปลาย

นอกจากเจดีย์บริวารแล้ว  บนลานปูอิฐทางด้านตะวันออกของเจดีย์ประธานมีฐานรากของเจดีย์รายขนาดเล็กตั้งเรียงรายกันตามแนวทิศเหนือ-ใต้  และฐานรากของเจดีย์รายขนาดเล็กที่มุมกำแพงวัดอีก ๔ องค์

          กำแพง  หลังจากการขุดแต่งแล้วเสร็จพบแนวกำแพงแสดงขอบเขตบริเวณของวัดและกั้นขอบเขตสิ่งก่อสร้างสำคัญดังนี้

กำแพงขั้นนอกหรือกำแพงวัดมี ๓ ด้าน  ยกเว้นด้านตะวันออก  แนวกำแพงด้านกว้างยาว ๕๐ เมตร  ด้านยาวยาว ๑๐๕ เมตร  มีประตูทางเข้าออกวัดที่ด้านใต้และด้านตะวันตก

กำแพงชั้นในหรือกำแพงแก้วรอบเจดีย์ประธานองค์เดิม  ขอบเขตกำแพงกว้าง ๓๕ เมตร  ยาว ๕๕ เมตร

          วัดจักรวรรดิ์หรือวัดเจ้ามอญ  เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งสมัยอยุธยา  แต่น่าเสียดายที่ถูกปล่อยทิ้งให้รกร้างปรักหักพังเป็นระยะเวลายาวนาน  แม้ปัจจุบันจะได้รับการบูรณะและปรับปรุงให้อยู่ในสภาพมั่นคงแล้วก็ตามแต่สิ่งก่อสร้างสำคัญในวัดส่วนใหญ่ได้หักพังเสียหายจนไม่สามารถบูรณะให้เห็นสภาพเดิมได้ทั้งหมด.